ไปงาน Wedding ceremony ของเพื่อนฝรั่ง ทำตัวยังงัยดี?

2138
Cheerful newlyweds at beach wedding ceremnoy

บทความนี้ เรามาว่าด้วยเรื่องของวัฒนธรรม (culture) หรือค่านิยม (value) ต่างๆ ของชาวตะวันตกที่แตกต่างจากของบ้านเราเล็กๆ น้อยๆ (ที่น่าสนใจและพอจะรู้) กันดีกว่า อย่างเช่น หากว่าพวกเรามีโอกาสได้ไปร่วมงานมงคลสมรส (Wedding ceremony) ของเพื่อนชาวต่างชาติขณะที่เราอยู่ในต่างประเทศ หรือตั้งใจไปร่วมงานเนื่องจากได้รับเกียรติจากเจ้าภาพมาเชิญชวนแล้วล่ะก็ แน่นอนล่ะ สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คงเป็นของขวัญในวันสำคัญนั้นๆ ซึ่งโดยปกติแล้วในบ้านเราเนี่ย จะนิยมให้ “ซองแดง” (คือ ให้ของขวัญเป็นเงิน) แก่คู่บ่าวสาว…ซึ่งวัฒนธรรมนี้ สำหรับชาวตะวันตกเค้าถือว่าเป็นการดูถูกนะคะ…พูดอย่างนี้แล้วบางคนเลยเกิดคำถามว่า .. “ถ้าอย่างนั้น เราควรจะให้อะไรถึงจะเหมาะสมล่ะ?”

Young Caucasian couple's wedding day

ของขวัญที่แนะนำในกรณีนี้ ได้แก่ ช่อดอกไม้ กระเช้าดอกไม้ หรือไม่ก็ควรเป็นของที่เราเลือกซื้อมาเป็นชิ้นๆ เพื่อคู่บ่าวสาว อาจเป็นของแต่งบ้าน เช่น นาฬิกา กรอบรูป ก็ได้ค่ะ หรือถ้าหากคิดไม่ออกจริงๆ แล้ววัฒนธรรมในต่างประเทศนั้น ก็มีสิ่งที่เรียกว่า “gift register” ซึ่งก็คือ การที่คู่บ่าวสาวไปจดรายการของสิ่งที่พวกเขาทั้งสองยังขาด และต้องการเอาไว้ตามห้างสรรพสินค้าดังๆ ที่มีบริการนี้ เพื่อให้แขกเหรื่อที่จะมาในงาน (แต่ยังไม่รู้ว่าจะให้อะไรดี) โทรมาถาม โดยสามารถกำหนดช่วงราคาหรืองบประมาณของเราเองได้ (แนวคิดนี้เห็นว่าห้างฯ ในเมืองไทยเรา ก็พยายามจะนำมาเลียนแบบอยู่ แต่ก็อาจจะต้องดูความเหมาะสมและความเข้ากันกับวัฒนธรรมไทยนิดนึง จริงไหมคะ)

เห็นไหมว่า…มีให้เลือกตั้งหลายทาง ขอเพียงแต่ไม่ใช่ให้เป็น “เงิน” เพียวๆ ซึ่งในต่างประเทศแล้ว พอพูดถึงการให้ธนบัตรเป็นใบๆ ก็จะทำให้เรานึกถึงการ Tip มากกว่าค่ะ…

เอ๋า…ไหนๆ ก็เลยมาถึงเรื่อง Tip ขอเปลี่ยนเรื่องกลางอากาศซะเลยดีกว่าเนอะ..

เวลาเราจะไปเที่ยวในประเทศไหน ก็ต้องเช็คให้ดีนะคะว่า ประเทศนั้นๆ เค้ามี
“กฎการใช้จ่ายภาษีในสังคม” อย่างไรบ้าง และเราก็ควรจะปฏิบัติตามนั้น

ตัวอย่างเช่น โดยส่วนมากแล้ว ตามร้านอาหารต่างๆ ในอเมริกา จะเป็นที่รู้กันว่า…ค่า Tip ที่เราต้องจ่ายให้แก่บริกรชายหรือหญิง (waiter หรือ waitress) เนี่ย คิดเป็นประมาณ 10-15% ของราคาอาหารมื้ออาหารกลางวัน และประมาณ 15-20% ของราคาอาหารมื้ออาหารเย็น  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเรารับประทานในร้าน หรือว่าซื้อกลับไปทานที่บ้าน (Take out) เพราะถ้าซื้อกลับบ้านอาจเสียค่า Tip น้อย หรือไม่ต้องเสียเลยก็ได้ค่ะ

Group of friends eating together

แน่นอนล่ะ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เคยมีเรื่องเล่าขำๆ ปากต่อปากกัน (ซึ่งไม่รู้ว่าจริงไหม) ในหมู่เด็กไทยในบอสตันว่า…เคยมีคนไทยเข้าไปรับประทานอาหารในร้าน เมื่อเวลาจ่ายเงินก็ไม่ได้จ่ายค่า Tip พอทานเสร็จแล้วเดินออกมาจากร้าน…บริกรคนหนึ่งก็วิ่งตามออกมาจากร้านเพื่อถามว่า เค้าทำอะไรผิดเหรอ ทั้งนี้…เนื่องจากว่า บางทีบริกรเหล่านี้จะได้รับค่าจ้างเป็นรายชั่วโมงซึ่งไม่มากนัก แต่ก็อยู่ได้ด้วยค่า Tip เหล่านี้นี่เองค่ะ…

แถมให้อีกเรื่อง .. ก่อนจบบทความนี้นะคะ เรื่องมีอยู่ว่า…ในต่างประเทศเวลาเราไปรับประทานอาหารในร้านอาหาร หรือภัตตาคาร เชื่อไหมคะว่า .. แรกๆ ที่เพิ่งไปอยู่เนี่ย เมื่อเราเห็นปริมาณอาหารที่มาในจานแล้ว (food portion) แทบทุกคนก็จะต้องตกตะลึงจนตาโต เพราะว่าปริมาณมันมากมายเหลือคณานับ เหมือนกับว่า เราสามารถกินไปได้อีก 2 มื้อเลยทีเดียว ที่เอามาเล่าตรงนี้ ก็เพื่อจะแนะนำเรื่องปกติๆ ง่ายๆ ที่ทุกคนก็รู้แต่ไม่กล้า นั่นก็คือ หากว่าเราทานไม่หมด เราสามารถห่อกลับได้นะคะ เป็นเรื่องปกติของคนที่นั่น ไม่น่าอายแต่อย่างใดเลยล่ะ

ว่าแต่…หลังๆ พออยู่ไปแล้วเริ่มชิน กินซะหมดเกลี้ยงเลย ก็เลยกลายเป็นว่า เอาตัว (อ้วนๆ) ของเราห่อมันกลับแทนค่ะ

หวังว่า พวกเราคงได้รับความรู้ที่ผสมผสานกับความบันเทิงไปในตัวพอประมาณจากบทความนี้นะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

#วัฒนธรรมชาวตะวันตก